บั้งไฟพญานาค เป็นสิ่งที่มีมาช้านาน จะเป็นความเชื่อ หรือความจริง ก็ต้องลองพิสูจน์ดูด้วยตนเอง เช่นเดียวกับเรื่องของวิญญาน ถ้าจะเปรียบก็เหมือน อากาศที่ไม่มีตัวตนให้เห็น ..คลื่นในอากาศ มีหลายแบบหลายชนิด ก็มองไม่เห็น แต่รับรู้ได้โดยอาศัยสื่อจากเครื่องมือต่างๆ เช่น กระแสไฟฟ้า วัดได้โดย กัลวานอมิเตอร์ (Galvanometer) ..แต่มันก็มี บางสิ่งที่เราไม่สามารถรับรู้ได้ ไม่ได้หมายความว่าไม่มี เพราะมนุษย์ มีขีดจำกัดทางกายภาพ
ฉะนั้น หากจะรู้ว่า พญานาค มีจริงหรือไม่ ก็ต้องปรับความสามารถเราให้เพิ่มขึ้นได้ โดยการนั่งสมาธิจนได้ความสามารถหรือญานรับรู้ ซึ่งมี 3 ระดับคือ ขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ อัปปนาสมาธิ..ซึ่งพิสูจน์ด้วยตนเองได้ โดยไม่จำกัดกาลเวลา และจะไม่สงสัยอีกต่อไป
มีคนเป็นโรคคิดมาก ก็เอาแต่กินยา เพราะไม่เชื่อว่า สมาธิจะแก้ได้ หรือไม่เคยทำมาก่อนเลยไม่อยากทำ..เอาง่ายๆคือกินยาดีกว่า.. แต่ไม่แก้ที่เหตุ แต่ไปแก้ที่ผล มันก็แก้ปัญหาไม่จบ วิธีหยุดคิด คือการฝึกใจให้สงบ ไม่ให้ไหลไปตามความคิด นั่นก็เป็นวิธีทำสมาธินั่นเอง ..เหมือนกับการที่คนไม่เชื่อว่า บั้งไฟพญานาค ไม่มีจริง..แล้วก็ไม่คิดจะพิสูจน์ ด้วยดูว่างมงาย.. และยังคงเถียงต่อไป
....ครั้นก่อนสมัยพุทธกาล ชาวเมืองเป็นผู้มีศีลมีธรรม มีจิตใจที่งดงาม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน มีความเคารพผู้ใหญ่ ผู้เฒ่าผู้แก่ ดูแลมารดาบิดากันเป็นปกติ พระราชาผู้ปกครอง บ้านเมืองทรงมีธรรมราชาครบถ้วน 10 ประการ มีปุโรหิตท่านหนึ่ง เป็นคนจิตใจงาม เป็นผู้มีปัญญามาก เวลาตัดสินคดีความอะไรก็บริสุทธิ์ยุติธรรม ท่านชำนาญในไตรเพท มีหน้าที่ประกอบพิธีกรรมบวงสรวงพญานาค เพื่อให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล เพราะความเชื่อว่า นาคเป็นผู้ให้น้ำ ท่านก็ประกอบพิธีอย่างนี้ทุกปีๆ จนกระทั่งหมดอายุขัย
ด้วยใจที่ผูกพันกับพญานาคมาก กอปรกับบุญกุศล ครั้นละโลกแล้ว จึงไปเกิดเป็น พญานาคมีร่างสีทองคำสวยงาม เป็นหัวหน้าปกครองชุมชน อยู่ใต้ลำน้ำโขง
พญานาคมีอยู่ 3 ระดับ คือ ระดับสูงก็อยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ระดับกลาง บริเวณเขาพระสุเมรุ ส่วนระดับล่างก็อยู่ในระดับพื้นมนุษย์ ท่านเป็นผู้ปกครองนาคต่างๆ ในละแวกลำน้ำโขง โดยปกติพญานาค เมื่ออยู่ในเมืองนาค จะแปลงกายเป็นกายทิพย์ รูปร่างเหมือนมนุษย์ มีเครื่องประดับงดงาม ครั้นมาถึงสมัยพุทธกาลของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสมณโคดม พอถึงวันออกพรรษา เหล่าเทวดาก็โจษกันไปทั่วว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเสด็จลงจากดาวดึงส์ จนเสียงอื้ออึงโจษขานดังไปทั่ว พร้อมๆกับเสียง ดนตรีสวรรค์ดังไปถึงนาคพิภพ พญานาคและบริวารสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น จึงออกมาจากนาคพิภพ ขึ้นไปอยู่บนผิวน้ำของแม่น้ำโขงในวันออกพรรษา และในวันเทโวโรหณะ เมื่อมองไปบนท้องฟ้าอันหนาทึบ ท้องฟ้ากลับเริ่มเปิดออก มีลำแสงฉัพพรรณรังสีพุ่งออกมา ท้องฟ้ากลวงเปิดโล่ง เหมือนไม่มีท้องฟ้าในบริเวณนั้น จนมองเห็นกันในสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จ อยู่ตรงกลางบันไดแก้วเพชร ที่มี หลากสี ตามหลังมาด้วย ปัญจสิกขเทวบุตร และมาตุลีเทพ สารถี ส่วนบันไดทองคำใสก็เป็นของเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ มีท้าว สุยามา ถือพัดวีชนี ท้าวสักกเทวราชหรือ พระอินทร์ถือปาริฉัตกะ ถัดมาก็ ท้าวสันตดุสิต ผู้ปกครองสวรรค์ ชั้นดุสิต ท้าวนิมมานรมิต ผู้ปกครอง สวรรค์ชั้นนิมมานรดี ถัดมาก็ท้าว ปรนิมมิต ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี และตามด้วยเหล่า เทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ทั้งหลาย เทวดาและพรหม หรือ มนุษย์ อยู่ใกล้หรือไกล จะเห็น เท่ากันด้วย พุทธานุภาพ..แต่ไม่ใช่มนุษย์ทั่วโลกได้เห็นกันหมด แต่เห็นเฉพาะ ผู้มีบุญที่สังกัสสะนคร ซึ่งอยู่ในเมืองสาวัตถี ในรัศมีแค่ 36 โยชน์เท่านั้น เพราะฉะนั้นมนุษย์ก็เห็น เทวดาก็เห็น แล้วนาคก็เห็น ท่านจึงเกิดกุศล ศรัทธามาก ได้เปล่งวาจาตั้งความปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต ดังนั้น เมื่อถึงวันเข้าพรรษา พญานาคก็จะออกมาจาก นาคพิภพมาจำศีลภาวนาใต้ลำน้ำโขง ต้องประพฤติพรหมจรรย์ไม่เสพเมถุนตลอด 1 พรรษา พอถึงวันออกพรรษา ด้วยจิตที่เลื่อมใสในพระสัมมา สัมพุทธเจ้า จึงบูชาพระพุทธองค์ ที่กลั่นจากใจใสๆเกิดเป็น ดวงประทีป กลมสว่าง ลอยขึ้นเหนือน้ำ ด้วยการ ประพฤติพรหมจรรย์มาตลอด 1 พรรษา ซึ่งท่านปรารถนาจะให้ใครเห็นหรือไม่เห็นก็ได้ด้วยอานุภาพของท่านพญานาค แหละเหล่านาคเอง
สรุปบั้งไฟพญานาคที่จังหวัดหนองคาย ประจำปี 2558 คาดว่าจะปรากฏบั้งไฟพญานาคทั้ง อ.สังคม (อ่างปลาบึก) อ.ศรีเชียงใหม่ (วัดหินหมากเป้ง) อ.โพนพิสัย และ อ.รัตนวาปี บ้านตาลชุม 43 ลูก บ้านโปร่งสำราญ 31 ลูก บ้านท่าม่วง 20 ลูก บ้านหนองแก้ว 44 ลูก บ้านโพนแพง 187 ลูก บ้านหนองคอน 134 ลูก ส่วนที่อำเภอโพนพิสัยมีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นที่หน้า อบต.จุมพล 18 ลูก บ้านหนองกุ้งเหนือ 4 ลูก หน้าวัดไทย ต.วัดหลวง 12 ลูก พุทธอุทยาน 26 ลูก บ้านปากสวย 4 ลูกบ้านน้ำเป 12 ลูก ส่วนในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬมีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นที่ลานพญานาค อ.ปากคาด 38 ลูก วัดอาฮงศิลาวาส 6 ลูก และที่ บ้านท่าสีไค อ.บึงโขงหลง จำนวน 3 ลูก สำหรับบั้งไฟพญานาคในปีนี้มีสีส้มอมแดง
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.dmc.tv บั้งไฟพญานาค