ออกซิเจนมีคุณต่อโลก+ร่างกาย มหาศาล ย่อมขาดออกซิเจนไม่ได้
นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นคว้าวิจัยว่า ออกซิเจนมีผลอะไรกับโลกนี้บ้าง..บนโลกมีความไม่เสถียรทางเทอร์โมไดนามิกส์จึงเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันกับธาตุอื่น ๆ ได้ง่าย ออกซิเจนเกิดขึ้นครั้งแรกในโลกจากการสังเคราะห์ด้วยแสงของแบคทีเรียและพืชออกซิเจน ยังก่อให้เกิดการเผาไหม้ เกิดจากปฏิกิริยาการรวมตัวกันของเชื้อเพลิงกับออกซิเจนอย่างรวดเร็ว พร้อมเกิดการลุกไหม้ และคายความร้อน..ปฏิกิริยาการเกิดสนิมเหล็กเป็นปฏิกิริยาที่พบเห็นได้ง่ายๆ กับสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่มีเหล็กเป็นองค์ประกอบ แต่เป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ อาจจะกินเวลายาวนาน เกิดขึ้นเมื่อมีเหล็กสัมผัสกับน้ำและความชื้น โดยจะค่อยๆสึกกร่อนกลายเป็นเหล็กออกไซด์..ในร่างกายคนเช่นกัน เซลต่างๆในร่างกาย จะถูกเผาผลาญทำให้ร่างกายสร้างเซลล์ใหม่ต่างๆมากมาย ทำให้มนุษย์แก่อย่างรวดเร็ว (สามารถชมการทดสอบได้ในวิดิโอข้างบนนี้และช่วงสำคัญอยู่นาทีที่..5 ) ดังนั้นการทำอะไรมากเกินไป เหนื่อยเกินไป ทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักเกินไป ความเครียด ทำให้ร่างกายทำงานไม่ปกติ สารต่างๆในร่างกายจะผลิตมา มากไปบ้างน้อยไปบ้าง จึงควรรักษาร่างกายและจิตใจให้พอดีเสมอ..
ปัจจุบันมีวิทยาการที่ก้าวหน้าขึ้นมาก ค้นคว้าวิจัยทดลอง และทดสอบ ร่างกายคนเมื่อถึงเวลาย่อมเสื่อมสภาพจนร่างกายย่อยสลายอาหารไม่ดีเหมือนเดิม ปัจจุบันจึงมีอาหารเสริมขึ้นมาทดแทน หากสุขภาพไม่ดี..อย่างน้อยอาหารเสริมก็อาจเป็นทางออกที่เป็นไปได้..
X - FACTOR
อาหารเสริมสุขภาพ*โปรโดน..ถูกสุดๆ..หั่นราคาสำหรับคนรักสุขภาพตัวจริง**ของจริงสำหรับคนจริง..สำหรับผู้เป็นไมเกรน*พาร์กินสัน*เบาหวาน*ความดัน*หัวใจ*สมองเสื่อม*สายตาแย่*ผิวเหี่ยวย่น..ฯ
อาหารเสริมสุขภาพ เอ็กแฟคเตอร์ สุดยอดของอาหารที่ปฏิวัติรูปแบบใหม่ ของความแข็งแรง ที่คุณซึมซับถึงอนูของความอัศจรรย์ได้..จัดว่า "..สุดยอดดดด.."
สาเหตุการเสื่อมของร่างกาย
ระบบต่อมไร้ท่อทำงานลดลงโดยเฉพาะฮอร์โมนเจริญวัย(HGH)ซึ่งทุกๆ 10 ปี จะลดลง 14% เมื่อมีอายุมากขึ้น ทำให้เซลล์ หรืออวัยวะ ทำหน้าที่ลดลง ร่างกายได้รับสารอนุมูลอิสระ(Free Radica)เช่น มลภาวะต่างๆ ซึ่งจะไปทำให้เซลล์ของร่างกายเสื่อม เกิดการแก่ก่อนวัยและเซลล์ผิดเพี้ยน เป็นเซลล์เนื้อร้าย และเป็น มะเร็งในที่สุด
ภาพปัจจุบัน อายุ 53 ตามบัตรประชาชน
เหมาะกับผู้ป่วยที่เป็น
* เบาหวาน * ความดันโลหิตสูง * อัลไซเมอร์ * ไขมันในเส้นเลือดสูง * ไมเกรน * พาร์กินสัน
ประโยชน์ที่ได้จาก x-factor
1.ต่อต้านความชรา
2.ปรับสภาพสู่ความเจ่งตึงของผิว
3.ลดริ้วรอย ลดความเหี่ยวย่น
4.ฟื้นฟูแผลต่างๆให้ดีขึ้น
5.ปรับสภาพเส้นผม,ลดปัญหาเส้นผม
6.ปรับสภาพการมองเห็น และได้ยิน
7.ช่วยให้รู้สึกสดชื่น แจ่มใส
8.ปรับสมรรถภาพทางเพศให้ดีขึ้น
9.เป็นอาหารเสริมสุขภาพ ที่เหมาะสมกับผู้ป่วย
10.เพิ่มระดับพลังงานของร่างกาย
11.ปรับสภาพ และ ฟื้นฟูร่างกายที่เสียหายจากการให้ เคมีบำบัด, การฉายแสงและการผ่าตัด
เมื่อเกิดการกระแทกช้ำมีบาดแผล หลังใช้ X - FACTOR แผลปิดภายใน 24 ชั่วโมง
ส่วนประกอบที่สำคัญ มีดังนี้
1. Milk protein gfc(มิลค์ โปรตีน จี เอฟ ซี)
2. Apple Juice ASC
3. L-Carnitine(แอล-คาร์นิทีน)
4. Co-enzyme Q 10
5. Taurine(ทัวร์รีน)
6. Creatine Monohyddrate(ครีเอทีน โมโนไฮเดรต)
7. L Gluathione(แอลกลูต้าไธโอน)
8. Ascorbic Acid(วิตามีนซี)
การกินหรือดื่ม เป็นกระบวนการเดิมที่สารอาหารจะถูกใช้ส่วนหนึ่ง และขับทิ้งส่วนหนึ่ง ส่วน x-factor เป็นแบบใหม่ที่ร่างกายได้สารอาหารเต็มที่
ส่วนขยาย รายละเอียดของส่วนประกอบ เอ็กซ์ แฟคเตอร์
1. Milk protein gfc มิลค์ โปรตีน จี เอฟ ซี) ได้จาก colostrums ( หัวน้ำนมวัวแรกคลอด) จาก นิวซีแลนด์ ซึ่งอุดมไปด้วยกรดอะมิโน วิตามินแร่ธาตุ ต่างๆ และสารเจริญวัย (Growth Factor) รวมถึงสารที่สนับสนุน กาเจริญเติบโต ในเด็ก การพัฒนาและซ่อมแซมกล้ามเนื้อการเสริมสร้าง คอลลาเจน (Collagen ) และอีลาสติน(Elastin) ให้เกิดความกระชับเต่งตึงต่อกล้ามเนื้อ และผิวหนัง
2. Apple Juice ASC (น้ำแอปเปิ้ล เอ เอส ซี) ที่สมบูรณ์ด้วยน้ำแอปเปิ้ลสกัดเข้มข้นจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่อุดมด้วยเเร่ธาตุและสารอาหารที่ช่วยชะลอแก่ น้ำแอปเปิ้ลที่สมบูรณ์ด้วยStem cell คือผลแอปเปิ้ลที่เชื่อว่ามาร์รัส โดเมสติคาร์ (Malus Dometica)นักวิทยาศาสตร์ชาวสวิสเซอร์แลนด์ พบสารในแอปเปิ้ลสวิส มีผล ลบริ้วรอยเหี่ยวย่นของผิวหนังช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตStem cell ชั้นใน และ ชั้นนอกของผิวหนัง
3.L-Carnitine (แอล-คาร์นิทีน) แอล-คาร์นิทีนอาศัยกรดอะมิโน 2 ตัว คือ ไลซีน (ที่พบใเนื้อสัตว์สัตว์ปีก และนม) และเมโทโอนีน(พบในธัญพืชผักใบเขียว)ร่วมมือกันสังเคราะห์ขึ้น โดยมีกลุ่มสารอาหารที่คอยเร่งกระบวนการทำงาน ได้แก่ Niacin วิตามิน C และธาตุเหล็ก(พบในเนื้อสัตว์ ตับ ข้าวซ้อนมือ นม ผมไม้รสเปรี้ยว เป็นต้น)
แอล-คาร์นิทีน จะออกฤทธิ์ในรูปแบบของกรดชนิดคาร์นิทีนมีหน้าที่ช่วยลำเลียงโมเลกุลไขมัน เข้าไปในเซลล์ต่างๆ คือการเอาไขมันมาใช้งานให้หมดไปนั่นเอง หากไม่เพียงพอหรือขาดก็จะนำมาสู่ปัญหาการสะสมของไขมันในร่างกาย ทำให้หลอดเลือดทำงานเสื่อมถอยลง มีความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวกับไขมัน มีอาการเหนื่อยล้าง่าย ซึม และอ่อนเพลีย ไขมันในเลือดสูงและมีความดันโลหิตสูง
ของขวัญจากฟากฟ้า
4. Co-enzyme Q 10 (โคเอนไซม์ คิวเทน)เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถลดริ้วรอยทำให้ความลึกของริ้วรอยลดลง และชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ที่ได้รับจากแสงแดดรังสีอุลตร้าไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ เชื้อโรคสารพิษรังสีอุลตราไวโอเลตมี 2 ชนิด คือ UVA และ UVB โดย UVA สามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังถึงชั้นหนังแท้ และเริ่มต้นในการผลิตอนุมูลอิสระ .. โดยผลิตจากกระบวนการออกซิเดชั่น (Oxidation) และอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นก็จะทำอันตรายต่อไขมันโปรตีน และสารพันธุกรรม(DNA)ในเซลล์ผิวหนัง รวมถึงการทำลายของคอลลาเจนในผิวหนังทำให้ผิวหนังแห้ง ดูไม่มีน้ำมีนวลและเกิดริ้วรอย หมองคล้ำได้ แต่ร่างกายเรามีกระบวนการป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระดังกล่าว โดยกระบวนการทางธรรมชาติ โดยที่ผิวหนังคนเราจะมีสารที่มีคุณสมบัติ เป็นสารต้านออกซิเดชั่น เช่นวิตามินอี วิตามินซีโดยสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะทำอันตรายต่อผิวหนังได้
5. ทอรีน ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้ เป็นโครงสร้างของกรดอะมิโนตัวอื่นๆทั้งหมด ทอรีนพบได้มากในเนื้อเยื่อหัวใจ กล้ามเนื้อลาย และระบบประสาทส่วนกลาง ร่างกายจำเป็นต้องใช้ทอรีนในการย่อยไขมัน ช่วยดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน และควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดทอรีน ยังเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทช่วยทำงานของต่อมหมวกไตทำหน้าที่หลั่งฮอร์โมนเพศ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างพลังงานให้กับร่างกายทอรีนจะมีธาตุสังกะสี เป็นตัวส่งเสริมการออกฤทธิ์ให้ได้ผลดียิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมสุขภาพหรือสมรรถภาพทางเพศได้อย่างดีนอกจากนี้ทอรีน ยังมีความสำคัญยิ่งต่อกระบวนการต่างๆ ในร่างกายอย่างมากโดยเฉพาะในสมอง
ทอรีนจึงมีประโยชน์ต่างๆ ต่อร่างกาย คือ
1. ช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจใช้แคลเซียมได้อย่างสมดุลในการหดตัว ซึ่งไม่ทำให้เกิดแคลเซียมมากเกินในหัวใจ แม้จะอยู่ในสภาวะที่มีระดับสูง สามารถช่วยรักษาภาวะหัวใจวายได้
2. เพิ่มการเคลื่อนไหวของตัวอสุจิ ผู้ชายที่เป็นหมันอันเนื่องจากเชื้อไม่เคลื่อนที่ ให้มีกำลังเคลื่อนที่ ทอรีน สำหรับผู้มีความดันโลหิตสูง โดยกลไกจะทำงานเกี่ยวข้องกับระบบของไต ซึ่งมีหน้าที่ในการควบคุมความดันโลหิต
3. บำรุงดวงตา ป้องกันศูนย์กลางจอประสาทตาเสื่อม ส่งเสริมการมองเห็น และช่วยในการทำงานของเรตินา ในการรับแสง ปกป้องเรติน่าจากการทำลายของแสงที่รุนแรงและสารเคมีต่างๆ
4. แก้อาการอ่อนเพลีย รู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย ป้องกันโรควิตกกังวลและมีพลังในระหว่างวัน และช่วยรักษา โรคลมชัก
5. ช่วยควบคุมการทำงานของระบบประสาท พบทอรีนมากที่สมองส่วนกลาง ในอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการรับสัมผัส แหล่งรวมกระแสประสาททั้งหลาย
6. ส่งเสริมการทำงานของอินซูลิน สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ในการทำงานของตับและตับอ่อน โดยการสร้าง กรดย่อยไขมัน ช่วยย่อย ไขมันที่รับประทานเข้า ให้ร่างกายย่อยและเผาผลาญได้ง่าย ร่างกายของเรา จึงสามารถ
นำพลังงาน ไปใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้เร็วขึ้น
7. ทอรีนมีความสำคัญอย่างมาก ต่อพัฒนาการระบบประสาท สมองของทารกแรกเกิด โดยในวัยทารกจะมีปริมาณทอรีนมากกว่าผู้ใหญ่ ดังนั้น ช่วงวัยเจริญเติบโต ร่างกายจะต้องการทอรีนในปริมาณมาก
8. ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยในการทำงานของแคลเซียม ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือดช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุชนิดต่างๆ ไปใช้ได้
9. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะทำให้เกิดมะเร็งในเม็ดเลือดขาวช่วยปกป้องปอดไม่ให้ถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ
6. Creatine Monohydrate ช่วยสร้างพลังงานให้กับกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว โดยเก็บสะสม เป็นแหล่งพลังงานสำคัญในกล้ามเนื้อเพิ่มแรงขับเคลื่อนให้กล้ามเนื้อได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในกิจกรรมที่ต้องการพลังงาน อย่างรวดเร็วทันทีสามารถออกกำลังได้มากขึ้น เพิ่มความแข็งแรงและเพิ่มขนาดของกล้ามเนื้อโดยกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มพลังงาน ลดการสลายมวลกล้ามเนื้อ ลดการเมื่อยล้าหลังออกกำลังกายกล้ามเนื้อฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
7. L Gluathione
ช่วยปกป้องร่างกายจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยตับในการย่อยสลายสารพิษ ร่างกายของเราจะผลิตมากขึ้นหากได้รับสารพิษเข้าไป เช่น ยาฆ่าแมลง สารเคมีต่างๆที่ปนเปื้อนในอาหาร น้ำดื่ม สาพิษ เหล่านี้จะทำลายเซลล์ และระบบของร่างกาย เมื่อทำงานร่วมกับวิตามินซี ที่มีคุณสมบัติ เป็นสารแอนติออกซิแดนท์แล้ว ปรากฏว่าร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย และเป็นประโยชน์ในทางการรักษาโรค กลูต้าไธโอนได้รับสมญาว่า หัวหน้าสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้เรามีสุขภาพดี และมีชีวิตยืนยาวคนเราต้องสัมผัสกับสารพิษอยู่เสมอจะมีความต้องการใช้กลูตาไธโอนที่ร่างกายสร้างเองอย่างมาก(ซึ่งบางครั้งไม่เพียงพอ) หากร่างกายไม่มี กลูตาไธโอน เซลล์จะตายอย่างรวดเร็ว นำไปสู่ความชรา และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรค ซึ่งกระตุ้นด้วยอนุมูลอิสระ เช่นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ เส้นเลือดตีบ
8. วิตามินซี เป็นปัจจัยประกอบ ที่ช่วยลดอัตราการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ โดยที่วิตามินซีจะทำปฏิกิริยากับอนุมูลอิสระป้องกันไม่ให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ซึ่งมาจากการสะลายตัวของกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัววิตามินซีอาจจะทำปฏิกิริยาโดยทางอ้อมในการป้องกันการสะลายตัวของไขมันในเยื่อบุเซลล์ โดยช่วยในการสังเคราะห์วิตามินอีที่ติดกับผนังเซลล์ขึ้นมาใหม่เป็นการป้องกันทำลายพิษสารก่อโรคมะเร็ง และยังมีคุณสมบัติที่เป็น สารต้านอนุมูลอิสระคือสารที่สามารถยับยั้ง หรือชะลอการเกิดปฏิกิริยา โดยการจับกับอนุมูล อิสระที่เกิดขึ้น และกระตุ้นให้มีภูมิต้านทาน
วิตามินซี เป็นโมเลกุลที่มีความไวในการทำปฏิกิริยาทางเคมีในร่างกาย ที่มีพลังขนส่ง อนุมูล ช่วยทำปฏิกิริยาการเผาผลาญสารอาหารไขมัน วิตามินซียังเป็นตัวกระตุ้นให้มีการดูดซึมเหล็ก ในลำไส้ให้มากขึ้นวิตามินซี ยังเกี่ยวกับการสังเคราะห์คอลลาเจนวิตามินซียังมีความเกี่ยวพันกันกับการสังเคราะห์ คาร์นิทีนระบบการสร้างภูมิคุ้มกัน และการรักษาบาดแผล ซึ่งวิตามินซีมีผลต่อการทำงานของเม็ดเลือดขาว