การเลี้ยงเห็ด ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง อุณหภูมิ ความชื้น
ข้อมูลปุ๋ยแค็ปซูลนาโน ผลิตภัณฑ์นำเข้าจากประเทศแคนนาดา
ส่วนประกอบ:
-สารประกอบอินทรีย์ที่เกิดจากโมเลกุลของสารหลายชนิดรวมกัน ฮิวมิค แอซิดไม่น้อยกว่า50%โปตัสเซียม8%
-สารผสมเข้มข้นของสารประกอบ คาร์โบไฮเดรตหลายชนิดกับธาตุอาหารเสริมในรูปของสารดีเลต ใช้ร่วมกับไคโตซาน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมได้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มแป้งและน้ำตาลให้พืชได้โดยตรง ทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดีสมบูรณ์ แข็งแรง ฟื้นตัวได้รวดเร็ว
คุณสมบัติ
-พืชไร่ เช่น มันสำปะหลัง อ้อย ข้าว ข้าวโพ ฯลฯ ผสม yic นาโน1 แค็ปซูลต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นทุก 15 วัน
-พืชผักสวนครัว เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง เห็ด ฯลฯ ผสม yic นาโน 1 แค็ปซูล ต่อน้ำ 40 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7-15 วัน
- ไม้ดอกไม้ประดับ เช่น กล้วยไม้ ดาวเรือง กุหลาบฯลฯ ผสม yic นาโน 1 แค็ปซูลต่อน้ำ 50 ลิตร พ่นทุก 7 วัน
- พืชยืนต้นหรือ ผลไม้ เช่น ยาง ปาล์ม ลำใย เงาะ มะม่วง มะนาว องุ่น ทุเรียน ลิ้นจี่ ลองกอง ฯลฯผสม yic 1-2 แค็ปซูลต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 15-30 วัน
- ใช้ปรับสภาพดิน ละลาย yic แค็ปซูล 3 แค็ปซูล ต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วราดลงพื้นดิน
- ผสมปุ๋ยเม็ดคลุกเคล้า 50 แค็ปซูล/ปุ๋ยเม็ด 1000 กก. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
วิธีการทำก้อนเชื้อเห็ดหูหนู
วัสดุที่ใช้
นำขี้เลื่อยยางพาราหรือขี้เลื่อยจากไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้ก้ามปู ไม้มะม่วง เป็นต้น หากใช้ขี้เลื่อยควรเป็นขี้เลื่อยกลางเก่ากลางใหม่จะดีที่สุด หากเป็นขี้เลื่อยใหม่ควรกองหมักทิ้งไว้ก่อนนำไปผสมกับสูตรอาหารอื่น ๆ ที่เตรียมไว้ เนื่องจากขี้เลื่อยใหม่จะสลายธาตุอาหารบางอย่างทำให้เกิดก๊าซแอมโมเนีย ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อเชื้อเห็ด และทำให้ความร้อนในก้อนเชื้อสูงเกินไป แต่ถ้าเป็นขี้เลื่อยเก่าอาจมีการปะปนของเชื้อโรคหรือเชื้อราชนิดอื่นใดง่าย อีกทั้งมักไม่ค่อยมีธาตุอาหารสะสมอยู่มากนัก สำหรับสูตรที่นิยมใช้เพาะเห็ดหูหนูในถุงพลาสติกนำขี้เลื่อยมาพัก 1 เดือน ผสมดีเกลือ รำ ปลายข้าว ยิปซั่ม ปูนขาว หลังจากนั้นคลุกเคล้า คอยฉีดผสมน้ำ ไม่ให้แห้ง หรือเปียก น้ำหนักแต่ละก้อนจะอยู่ที่ประมาณ 1 กิโลกรัม เสร็จแล้ว นำไปนึ่งอบก้อนเพื่อฆ่าเชื้อ 6 ชั่วโมง ให้อุณหภูมิอยู่ที่ 200 องศาเซลเซียส แล้วอบต่ออีก 4 ชั่วโมง จากนั้นปล่อยให้เย็น ตอนเชื้อก็หยอดเชื้อที่ทำไว้ 1 ขวดหยอดได้ประมาณ 30 ก้อน จากนั้นอุดปากขวดด้วยสำลีและปิดทับด้วยกระดาษ วัสดุที่ใช้เขี่ยหัวเชื้อควรทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ก่อนทุกครั้งเสมอ จากนั้น เข้าโรงเรือนบ่มก้อน การจัดวางก้อนเชื้อในโรงบ่ม โดยวางในแนวตั้งไม่ทับซ้อนกัน ใช้เวลาอยู่ที่ 40-50 วันในโรงเรือนเพาะ เห็ดหูหนู ต้องการโรงเรือนที่ไม่ร้อน ไม่ฃอบแสงสว่าง ต้องเป็นแบบหญ้าฟาง มืด มีความชื้น เย็น พื้นควรเป็นดิน
การเพาะเห็ดหูหนูโดยใช้ไม้ท่อน
เห็ดหูหนูจะเกิดขึ้นได้เองบนตอไม้ผุหรือต้นไม้ที่ตายแล้วในที่มีความชื้นสูง ไม้ที่จะใช้เพาะจะเป็นไม้เนื้ออ่อนหรือไม้เนื้อแข็งก็ได้ มีอายุระหว่าง 3-5 ปี ส่วนไม้ที่ตัดจากต้นใหม่ ๆ มีเปลือกหนา ต้องไม่มียางที่เป็นอันตรายต่อเห็ด หากมียางควรตัดทิ้งไว้อย่างน้อย 1สัปดาห์เพื่อให้ยางแห้ง
วิธีการเพาะโดยใช้ท่อนไม้มีขั้นตอนดังนี้
1. การเตรียมท่อนไม้
ควรตัดไม้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ(ช่วงฤดูร้อนต่อฤดูฝน) ซึ่งเป็นระยะที่ท่อนไม้มีการสะสมอาหารและน้ำตาลไว้มากที่สุด อันจะส่งผลให้เส้นใยเห็ดเจริญเติบโตได้รวดเร็ว ไม้เส้นผ่าศูนย์กลาง 15-20 ซม. ท่อนละ 1 เมตร การตัดอย่าให้เปลือกไม้แตกหรือช้ำ หากมีกิ่งเล็กหรือตาให้ตัด และทาทับด้วยปูนขาวหรือปูนแดงเพื่อป้องกันเชื้อรา
สำหรับไม้ที่ใช้เพาะแล้วให้ผลผลิตสูง เรียงตามลำดับ ดังนี้ ไม้นนทรี ไม้แค ไม้ขนุน ไม้มะม่วง ไม้โพธิ์ป่า.. เป็นต้น
ไม้ที่เพาะแล้วให้ผลผลิตต่ำ ได้แก่ ไม้ก้ามปู ไม้นุ่น ไม้สะแก ไม้กระถินณรงค์ ไม้ฝรั่ง ..เป็นต้น
2. การเจาะรูท่อนไม้
ไม้ยางเเปลือกแห้ง เจาะรูเพื่อใส่หัวเชื้อลงไป ขนาดกลม 5 หุน อย่าให้เปลือกไม้ช้ำหรือฉีกขาด เจาะแบบสลับฟันปลา รูแรกห่างจากปลายไม้ 5 ซม. ลึก5 ซม. รูห่าง7 ซม. ห่างกัน แถวละ 5 ซม.
3. การใส่เชื้อเห็ด
การใส่เชื้อเห็ดต้องความสะอาดให้มาก ทำความสะอาดด้วยอัลกอฮอล์ มือ ภาชนะต่าง ๆ หัวเชื้อที่มีขี้เลื่อยชนิดเดียวกับท่อนไม้จะดีมากแต่ไม่ผสมดีเกลือตอนใส่หัวเชื้อต้องใส่ให้แน่นเกือบเต็มรู โดยต่ำกว่าเปลือกไม้เล็กน้อย เสร็จแล้วรีบปิดรูทันที ด้วยพลาสติกหรือจุกไม้ แล้วทุบให้แน่น จากนั้นปิดด้วยขี้ผึ้งอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีน้ำเข้าไปในเชื้อเห็ด บริเวณที่ใส่เชื้อเห็ด ต้องสะอาดไม่มีลม โรค หรือแมลง
4. การบ่มพักท่อนไม้
การบ่มพักท่อนไม้เป็นขั้นตอนที่รอให้เส้นใยเจริญเข้าไปในเนื้อไม้ ขั้นตอนนี้อาจทำในโรงบ่มหรือบริเวณที่ร่มมีแสงสว่างรำไร วิธีการวางท่อนไม้ให้วางเรียงแบบวางหมอนรถไฟ แต่ละท่อนห่างกัน 1-2 ซม. ซึ่งจะทำให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกขึ้น โดยใช้ท่อนไม้อื่นวางรองบนพื้นก่อนเพื่อไม่ให้ไม้ที่ใส่เชื้อเห็ดสัมผัสพื้นโดยตรง และอาจใช้ฟางหรือกระสอบคลุมท่อนไม้ไว้เพื่อรักษาความชื้นในท่อนไม้ไว้ระหว่างนั้นต้องดูแลเรื่องโรค แมลงและความชื้นให้เหมาะสม หากอากาศแห้งหรือมีลมโกรกมากควรรดน้ำสัปดาห์ละ 1ครั้ง หรือ 2-3 วันต่อครั้งแล้วแต่สภาพอากาศและควรมีการกลับกองไม้นำด้านล่างขึ้นด้านบนทุก ๆ 7วัน เพื่อให้เส้นใยเจริญในท่อนไม้อย่างสม่ำเสมอและเป็นการตรวจสอบโรคแมลงไปในครั้งเดียวกัน
ปัญหาที่พบมากในการเพาะเห็ดหูหนูในท่อนไม้
1. เห็ดให้ผลผลิตน้อย เกิดจากมีการปะปนของเชื้อชนิดอื่นเข้าไปในรูที่เจาะให้ป้องกันโดยการทาปูนแดง หรือขี้ผึ้งบริเวณแผลของท่อนไม้ก่อนทำการเพาะนอกจากนี้การเจาะไม้ตื้นเกินไปก็เป็นสาเหตุให้เชื้อเห็ดเดินไม่ทั่วท่อนไม้ได้
2. มีดอกเห็ดเกิดขึ้นเฉพาะบริเวณรูที่เจาะ เกิดจากหัวเชื้อมีอาหารสมบูรณ์เกินไป เช่น ทำจากเมล็ดธัญพืช หรือขี้เลื่อยผสมดีเกลือ ทำให้เชื้อเห็ดไม่เจริญเข้าไปในท่อนไม้
3. ดอกเห็ดออกมาเฉพาะด้านล่างของท่อนไม้ เกิดจากความชื้นในโรงเรือนหรือสถานที่ทำให้เกิดดอกไม่เพียงพอ
4. มีแมลงเข้าทำลายเห็ด เช่น มด มอด ปลวก ไร ฯลฯ ให้ใช้ผงซักฟอก หรือสารสะกัดจากสะเดาฉีดพ่นรอบ ๆ โรงเรือน หรือโรยด้วยปูนขาว
การกระตุ้นให้เห็ดออกดอก โดยนำไปแช่น้ำทิ้งไว้ ครึ่งวัน แล้วให้ใช้ค้อนทุบบริเวณหัวและท้ายของท่อนไม้ 3ครั้ง เพื่อให้เนื้อเยื่อขยายตัวและไล่น้ำที่เกาะอยู่ออกไป ทำให้อากาศซึมเข้าไปในท่อนไม้ได้เร็วขึ้น แล้วให้นำไปวางในโรงเรือน โดยวางเรียงตั้งแบบเผาข้าวหลาม คือ ทำราวตรงกลางสูงจากพื้น60 ซม. วางท่อนไม้พิงทั้ง 2ข้าง ห่างกันประมาณ 15 ซม. ส่วนอุณหภูมิที่ดีที่สุดสำหรับการเกิดดอกคือ 25-30 องศาเซลเซียส มีระบบถ่ายเทอากาศที่ดี กลางวันให้แสงเข้าน้อย ส่วนเวลากลางคืนเปิดประตูโรงเรือนเพาะ เมื่อเห็ดออกมาจากท่อนไม้ได้ 4-5 วัน จึงเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าไม้จะผุ หากท่อนไม้แห้ง ดอกออกน้อย ให้นำไปกระตุ้นเชื้อใหม่ด้วยการนำไปแช่น้ำแล้ว เคาะ แล้วจึงนำมาวางให้เกิดดอกเกิดใหม่อีกครั้ง หากยังไม่ออกอีกให้ทิ้งไป
ปัญหาที่พบมากในการเพาะเห็ดหูหนูในถุงพลาสติก
1. เส้นใยไม่เจริญในถุงก้อนเชื้อ เพราะ หัวเชื้ออ่อน มีการปะปนของเชื้อจุลินทรีย์ชนิดอื่น ขี้เลื่อยชื้นไป หมักไม่ได้ที่ เกิดก๊าซแอมโมเนียทำลายเชื้อเห็ด อุณหภูมิในโรงบ่มเย็นไป แก้โดยหาแหล่งก้อนที่ทดลองแล้วได้ผลดี แล้วปฏิบัติตามขั้นตอนการเพาะให้ถูกวิธี
2. เส้นใยเดินไม่เต็มถุง เพราะถุงก้อนชื้น การนึ่งฆ่าเชื้อไม่นานพอ หรืออาจมีอาหารเสริมมากเกินไป ทำให้จุลินทรีย์อื่น ๆ เข้าปะปน หรือ สำลีที่ใช้อุดปากถุงเก่าเปียกชื้นแฉะมากไป
3. เส้นใยเดินเต็มก้อนแต่เกิดดอกเพียงเล็กน้อย ดอกขนาดเล็กดอกแห้งหรือเหี่ยวหรือไม่เกิดดอกเลย เกิดจากเชื้อไม่แข็งแรงหรือเกิดจากความชื้นและอาหารในก้อนเชื้อไม่เพียงพอ
4. ปัญหาเรื่องแมลงที่พบรบกวนมากได้แก่ ไรไข่เป็นเม็ดใส ๆ คล้ายไข่ปลา จะเข้าทำลายจากปลายของขอบเส้นใยเข้าไปทำให้เส้นใยชะงักการเติบโต ให้ป้องกันไม่ให้โรงเรือนสกปรกและให้มีความชื้นที่สม่ำเสมอจะป้องกันไรได้เป็นอย่างดี สำหรับโรคราเมือกนั้นมักจะเกิดกับก้อนเชื้อเก่าที่หมดอายุแล้ว ผู้เพาะควรกำจัดก้อนเชื้อเก่าออกไปจากโรงเพาะทันที แล้วทำความสะอาดชั้นด้วยแอลกอฮอล์โรยปูนขาวบนพื้นทิ้งไว้ 2 วัน จึงล้างออก
ไรไข่ปลา
จะทำให้เส้นใยขาดออกจากกัน และไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้ เนื่องจากไรพวกนี้ชอบทำลายกัดกินส่วนของเส้นใย ไรศัตรูที่พบทำลายเห็ด ไข่จะเจริญเติบโตอยู่ภายใต้ท้องแม่ จนกว่าจะเป็นตัวแก่ ส่วนใหญ่ผสมพันธุ์กันอยู่ภายในท้องก่อนออกจากท้องแม่ จึงจะเจาะผนังท้องของแม่ออกมาภายนอก ตัวแม่ที่ได้รับการผสมพันธุ์สามารถวางไข่ประมาณ200 ฟอง ต่อตัวแม่ 1ตัว ตัวแก่ตัวเมียที่ออกจากท้องแม่แล้ว จะมีระยะเวลาก่อนการตั้งท้อง คือก่อนที่ส่วนท้องจะขยายโต เป็นเม็ดกลมเหมือนไข่ปลา ประมาณ 1-3 วัน สำหรับตัวแม่ที่ได้รับการผสมพันธุ์และประมาณ 3-6 วัน สำหรับตัวแม่ที่ได้รับการผสมพันธุ์ หลังจากนั้น ส่วนท้องจะค่อย ๆ ขยายใหญ่ มีขนาดโตมองเห็นชัดด้วยตาเปล่า เป็นเม็ดกลมเล็ก ๆ สีเหลืองใส