puideedee.com

 

นางสงกรานต์ 2566 

นามว่า นางกิมิทาเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกจงกลนี (บัวชนิดหนึ่ง) อาภรณ์แก้วบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จนั่ง มาเหนือหลังมหิงส์ (กระบือ) เป็นพาหนะ

 

กณฑ์พิรุณศาสตร์ ปีนี้ จันทร์ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 500 ห่า

 

ตกในเขาจักรวาล 200 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 150 ห่า ตกในมหาสมุทร 100 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 50 ห่า

เกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีกันย์ ชื่อปฐวี (ธาตุดิน) น้ำอุดมสมบูรณ์ดี

เกณฑ์นาคราชให้น้ำ ปีนี้ นาคราชให้น้ำ 2 ตัว ทำนายว่า ฝนกลางปีอุดม



นางสงกรานต์ ปี 2559

นามว่า มณฑาเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้วไพฑูรย์ นอนมาบนหลังลา ทำนายว่าน้ำน้อย ธัญญาหารบริบูรณ์ 

นางสงกรานต์ ทรงนามว่า "มณฑาเทวี" ทรงพาหุรัดทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้วไพฑูรย์ ภักษาหารนม เนย พระหัตถ์ขวาทรงเหล็กแหลม พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จไสยาสน์ลืมเนตรมาเหนือหลังคัสพร (ลา) เป็นพาหนะ

        ส่วนในวันที่ 16 เมษายน เวลา 00 นาฬิกา 34 นาที 12 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่ เป็น 1378 ปีนี้วันเสาร์เป็นธงชัย วันพุธ เป็นอธิบดี วันศุกร์เป็นอุบาทว์ วันศุกร์เป็นโลกาวินาศ

คำทำนาย นางสงกรานต์ 2558

นางสงกรานต์นามว่า  รากษสเทวี  ทรงพาหุรัด ทัดดอกบัวหลวง อาภรณ์แก้วโมรา ภักษาหารโลหิต 
หัตถ์ขวาทรงตรีศูล หัตถ์ซ้ายทรงธนูศร เสด็จนั่ง มาเหนือหลังวรวาหะ(สุกร) เป็นพาหนะ

เกณฑ์พิรุณศาสตร์ ปีนี้ อาทิตย์ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 400 ห่า 
ตกในเขาจักรวาล 160 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 120 ห่า ตกในมหาสมุทร 80 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 40 ห่า

เกณฑ์ธาราธิคุณ ชื่อ ปฐวี(ธาตุดิน) น้ำอุดมสมบูรณ์ดี 

เกณฑ์นาคราชให้น้ำ ปีมะแม นาคราชให้น้ำ 3 ตัว ทำนายว่า ฝนต้นปี กลางปี ปลายปีเสมอกันแล

เกณฑ์ธัญญาหารชื่อ วิบัติ ข้าวกล้าในไร่นา จะเกิดกิมิชาติ คือ มีด้วงแมลงรบกวน ข้าวกล้า  จะได้ผล 1 ส่วน เสีย 5 ส่วน

 บ้านเมืองจะเกิดยุทธสงคราม จะฆ่าฟันกัน จะนิราชจากกัน จะฉิบหายเป็นอันมาก

 

โดยนางสงกรานต์รากษสเทวี (อ่านว่า ราก-สด-เท-วี) นั้น  ปกติจะทรงหมูเป็นพาหนะใน 4 รูปแบบ คือ ยืนบนหมู นั่งบนหมู

นอนลืมตาบนหมู และนอนหลับตาบนหมู ซึ่งปีนี้ นางสงกรานต์รากษสเทวีได้เสด็จนั่งมาเหนือหลังหมู ซึ่งเชื่อกันว่าหากนาง

สงกรานต์นั่งมา จะเกิดความเจ็บไข้ ผู้คนล้มตาย และเกิดเหตุเภทภัยต่าง ๆ

 

ซึ่งการทำนายจากนางสงกรานต์ในปีนี้ มีภักษาหารโลหิตจึงเชื่อกันว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ นองเลือดหรือเป็นปีที่มีการเกิดอุบัติเหตุล้มป่วย เจ็บตายกันเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม คำทำนายน้ำไม่ได้เป็นการชี้นำให้เชื่อจนงมงายแต่เพื่อเตือนสติให้ระวังตัวมากขึ้น จะได้เตรียมตัวหรือหาวิธีป้องกันภัย หรือหลีกเลี่ยงที่จะต้องไปพบเจอกับเหตุเภทภัยรุนแรงได้

ข้อมูลจาก sanook.com


 

ประว้ตินางสงกรานต์


 สงกรานต์ซึ่ง เป็นประเพณีของประเทศไทย  สงกรานต์เป็นคำสันสกฤต หมายถึง การผ่าน หรือ การเคลื่อนย้าย ซึ่งเป็นการอุปมาถึงการเคลื่อนย้ายของการประทับในจักรราศี

การเคลื่อนขึ้นปีใหม่ในความเชื่อของประเทศไทยและบางประเทศในเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้ และชาวต่างประเทศจะเรียกว่าเทศกาลนี้ว่า “สงครามน้ำ” สงกรานต์ เป็นประเพณีเก่าแก่ของไทยซึ่งสืบทอดมาแต่โบราณคู่มากับประเพณีตรุษ จึงมีการเรียกรวมกันว่า ประเพณีตรุษสงกรานต์ หมาย ถึงประเพณีส่งท้ายปีเก่า และต้อนรับปีใหม่ คำว่าตรุษเป็นภาษาทมิฬ แปลว่าการสิ้นปี เมื่อวันสงกรานต์ตรงกับวันใดของแต่ละปี ซึ่งจะมีนางสงกรานต์ประจำวันนั้นๆ

 

ตำนานนางสงกรานต์

บุตรของเศรษฐีคนหนึ่งชื่อ ธรรมบาลกุมาร เป็นผู้ที่รู้ภาษานก เรียนไตรเพทจบ เมื่ออายุเจ็ดขวบ เป็นอาจารย์บอก มงคลต่าง ๆ แก่มนุษย์ทั้งปวง ซึ่งในขณะนั้น โลกทั้งหลายนับถือท้าวมหาพรหมและกบิลพรหมองค์หนึ่งว่า เป็นผู้แสดงมงคลแก่มนุษย์ทั้งปวง เมื่อกบิลพรหมทราบ จึงลงมาถามปัญหาธรรมบาลกุมาร 3 ข้อ สัญญาไว้ว่า ถ้าแก้ปัญหาได้จะตัดศีรษะบูชา ถ้าแก้ไม่ได้จะตัดศีรษะธรรมบาลกุมารเสีย ปัญหานั้นว่า

ข้อ 1. เช้าราศีอยู่แห่งใด   ข้อ 2. เที่ยงราศีอยู่แห่งใด   ข้อ 3. ค่ำราศีอยู่แห่งใด

ธรรมบาลขอผลัด 7 วัน ครั้นล่วงไปได้ 6 วัน ธรรมบาลกุมารก็ยังคิดไม่ได้ จึงลงจากปราสาทไปนอนอยู่ใต้ต้นตาลสองต้น มีนกอินทรี 2 ตัวผัวเมียทำรังอาศัยอยู่บนต้นตาลนั้น  ครั้ง เวลาค่ำนางนกอินทรีจึงถามสามีว่า พรุ่งนี้จะได้อาหารแห่งใด สามีบอกว่า จะได้กินศพธรรมบาลกุมาร ซึ่งท้าวกบิลพรหมจะฆ่าเสีย เพราะทายปัญหาไม่ออก นางนกถามว่า ปัญหานั้นอย่างไรสามีจึงบอกว่า ปัญหาว่าเช้าราศีอยู่แห่งใด เที่ยงราศีอยู่แห่งใด ค่ำราศีอยู่แห่งใด นางนกถามว่า จะแก้อย่างไร สามีบอกว่า เช้าราศีอยู่หน้า  มนุษย์ทั้งหลายจึงเอาน้ำล้างหน้า เวลาเที่ยงราศีอยู่อก  มนุษย์ทั้งหลายจึงเอาเครื่องหอมประพรมที่อก เวลาค่ำราศีอยู่เท้า  มนุษย์ทั้งหลายจึงเอาน้ำล้างเท้าครั้งรุ่งขึ้นท้าวกบิลพรหมมาถามปัญหา ธรรมบาลกุมารก็แก้ตามที่ได้ยินมา ท้าวกบิลพรหมจึงตรัส เรียกเทพธิดาทั้ง 7 อันเป็นบริจาริกาพระอินทร์มาพร้อมกัน บอกว่า เราจะตัดศีรษะบูชาธรรมบาลกุมาล ศีรษะของเราถ้าจะตั้งไว้บนแผ่นดินไฟก็จะไหม้ทั่วโลก ถ้าจะทิ้งขึ้นบนอากาศ ฝนก็จะแล้ง ถ้าจะทิ้งไว้ในมหาสมุทรน้ำก็จะแห้งธิดาทั้งเจ็ดเอาพานมารับศีรษะ แล้วก็ตัดศีรษะส่งให้ธิดาผู้ใหญ่ นางจึงเอาพานมารับพระเศียรบิดาไว้ แล้วแห่ทำประทักษิณ รอบเขาพระสุเมรุ 60 นาที จากนั้นเชิญไปประดิษฐานไว้ในมณฆปถ้ำคันธุลีเขาไกรลาศ บูชาด้วยเครื่องทิพย์ต่าง ๆ พระเวสสุกรรมกันฤมิตรแก้วเจ็ดประการชื่อ ภควดี ให้เป็นที่ประชุมเทวดา เทวดาทั้งปวงนำเอาเถาฉมุลาด ลงมาล้างในสระอโนดาตเจ็ดครั้ง แล้วแจกกันสังเวยทุก ๆ พระองค์ ครั้งถึงครบกำหนด 365 วัน โลกสมมติว่า ปีหนึ่งเป็นสงกรานต์นางเทพธิดาเจ็ดองค์ ผลัดเวรกันมาเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหม ออกแห่ประทักษิณเขาพระสุเมรุทุกปี แล้วกลับไปเทวโลก ซึ่งลูกสาวทั้งเจ็ดของท้าวกบิลพรหมนั้น เราสมมติเรียกว่า นางสงกรานต์ มีชื่อต่าง ๆ ดังนี้ วันอาทิตย์ ชื่อนางทุงษะเทวี วันจันทร์ชื่อนางโคราคะเทวี วันอังคารชื่อนางรากษสเทวี วันพุธชื่อนางมณฑาเทวี วันพฤหัสชื่อนางกิริณีเทวี วันศุกร์ชื่อนางกิมิทาเทวี วันเสาร์ชื่อนางมโหธรเทวี


 

 

จัดทำเพื่อเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรม ประเพณีไทย ขอขอบคุณข้อมูล และภาพจาก www.dmc.tv

    ธิดาทั้ง 7 ผลัดเวรกันนำพานมารองรับเศียร โดยให้นางทุงษะ ผู้เป็นธิดาองค์โต เป็นผู้เริ่มต้น ซึ่งนางทุงษะก็เชิญพระเศียรของท้าวกบิลพรหมเวียนขวารอบเขาพระสุเมรุ 60 นาที จากนั้นประดิษฐานไว้ในถ้ำคันธชุลี ณ เขาไกรลาศ และเมื่อครบกำหนด 365 วัน ซึ่งโลกสมมุติว่าเป็นปีหนึ่งเวียนมาถึงวันมหาสงกรานต์ เทพธิดาทั้ง 7 ก็จะทรงพาหนะของตน ผลัดเวรกันมาเชิญพระเศียรของบิดาออกแห่ ทำเช่นนี้ทุก ๆ ปี และเนื่องจากเทพธิดาทั้ง 7 ปรากฏตัวในวันมหาสงกรานต์เป็นประจำ จึงได้ชื่อว่า “นางสงกรานต์” ส่วนท้าวกบิลพรหมนั้น นัยก็คือ พระอาทิตย์ เพราะกบิล หมายถึง สีแดง

 

นางสงกรานต์ทั้งเจ็ด ได้แก่   1.ทุงษะเทวี    2.โคราคะเทวี    3.นางรากษสเทวี    4.นางมณฑาเทวี     5.นางกิริณีเทวี                                  6.นางกิมิทาเทวี   7.นางมโหธรเทวี
นางสงกรานต์ปีนี้ เป็น 2.โคราคะเทวี                     

*มนุษย์เรา โชคชะตาชีวิต จะเป็นยังไงก็ตาม ความสำคัญอยู่ที่ปัจจุบัน  ควรทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

อดีตคือ ครูเรา จะเป็นตัวสอนเรา ให้ปรับปรุงชีวิตให้ดีขึ้น  ทำความดีด้วยใจที่บริสุทธิ์ ..ได้ดีแน่นอน

ให้เหมือนการรดน้ำต้นไม้ไปเรื่อยๆ..ถึงเวลา มันจะออกดอกออกผลเอง ต้องรู้จักการรอคอย อย่าใจ

ร้อน หากไปหวังผลจะทุกข์ใจแทน อนาคตเปลี่ยนได้เสมอ หากแก้ไขปรับเปลี่ยนปัจจุบันให้ดีนะจ๊ะ