puideedee.com

 
การใช้ปุ๋ยแค็ปซูลนาโนกับไร่สับประรด หวานฉ่ำ อร่อย กรอบ สุดยอด

 

 

  

 

  

 

  


สนใจสอบถามที่ นิ่มนาโน โทร.080-0-587 589 ;  089-270-2607


การใช้ปุ๋ยแค็ปซูลนาโนกับสับปะรด เพื่อเพิ่มผลผลิต ปุ๋ยแค็ปซูลนาโนเป็นธาตุอาหารของพืชประกอบด้วยหัวเชื้อธาตุอาหารพืชสกัดเข้มข้นบรรจุมาพร้อมกัน ใช้ผสมน้ำ 1เม็ดต่อน้ำ 20ลิตร ใช้ฉีดพ่นให้กับสับปะรด ทุก15 - 30 วัน ธาตุอาหารจากการใช้ปุ๋ยแค็ปซูลนาโน ซึ่งประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โปรตัสเซียม ธาตุอาหารรอง ได้แก่ แม็คนีเซียม แคลเซียม และธาตุอาหารเสริมพืช ได้แก่ โบรอน เหล็ก ทองแดง สังกะสี และมังกานิส  เมื่อมีการใช้ปุ๋ยแค็ปซูลนาโนกับไร่สับประรด และจะปล่อยเป็น เปลี่ยนเป็นอมิโนธาตุเลี้ยงกับต้นพืชอย่างต่อเนื่อง นานถึง 30 วัน ทำให้ต้นพืชเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง นำไปใช้กับสับปะรดช่วยทำให้โตเร็ว สมบูรณ์ สามารถบังคับดอกได้เร็ว                                                                                    

    

 

วิธีใช้ นำชุดปุ๋ยแค็ปซูลนาโน  1เม็ดต่อน้ำ 20ลิตร และนาโนพลัสชนิดน้ำ 2 ซีซีต่อน้ำ 20ลิตร ผสมทั้งหมดในน้ำ ฉีดพ่นทุก 15-30 วัน ใช้ร่วมกับปุ๋ยทางดิน หรือฮอร์โมนพืชได้ทุกชนิด จะช่วยเพิ่มขนาดลำต้นสับปะรด และน ช่วยเพิ่มขนาดของผลสับปะรด


 

                               

 

บทความเกี่ยวกับสับปะรด  ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Anannas comosus เป็นพืชล้มลุกที่มีต้นกำหนดมาจากทวีปอเมริกาใต้ ลำต้นมีขนาด สูงประมาณ 80-100 ซม. สามารถปลูกได้ง่ายโดยการใช้หน่อ หรือส่วนที่เป้นยอดของผลเรียกว่าจุก นำมาฝังกลบลงดินไว้  เปลือกของผลสับปะรดมีลักษณะเป็นตาล้อมรอบ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีชื่อเรียกตามภาษาท้องถิ่นว่า "บักนัด" ภาคเหนือเรียกว่า มะนัด หรือบ่อนัด ภาคใต้เรียกว่า ยานัด หรือขนุนทอง  เป็นผลไม้ที่สามารถรับประทานได้ทั้งผลดิบและผลสุก แต่ความนิยมรับประทานผลสุกมากกว่า ปัจจุบันได้มีการนำส่วนของยอดอ่อนสับปะรดมาใช้ประกอบอาหารไทยทำกับข้าวประเภทแกงเผ็ด แกงคั่ว รับประทานแทนหน่อไม้

ลักษณะของสับปะรด เป็นไม้ล้มลุกมีลำต้นอยู่ใต้ดิน ใบเดี่ยวเรียงสลับกัน ซ้อนกันถี่มากรอบต้นใบที่สมบูรณ์ ความกว้างใบ 6 ซม. ยาว ประมาณ 1 เมตร ไม่มีก้านของใบ ดอกช่อออกจากกลางต้น มีดอกย่อยจำนวนน้อยมาก ผลเป้นผลรวมรูปทรงกระบอก มีใบเป้นกระจุกที่ปลาย สับปะรดเป็นได้ทั้งไม้ผล และไม้ประดับ ซึ่งมีลักษณะการหาอาหารที่แตกต่างกัน สับปะรดบางชนิดชอบขึ้นอยู่ตามคบไม้  หรือบางพันธุ์มีรากอากาศ สำหรับสับปะรดที่ใช้ในการกินผลจะจัดเป็นพืชไม้ดิน  สับปะรดสามารถเก็บน้ำไว้ตามซอกใบได้เล็กน้อยทำให้สามารถเป็นพืชทนแล้งได้ดี สับะรดต้องการอากาศค่อนข้างร้อน อุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 23-29 องสาเซียลเซียส ประมาณน้ำฝนที่ต้อง การ ในช่วง 1000-1500 มิลลิเมตรต่อปี และมีฝนตกกระจายสม่ำเสมอตลอดปี มีความชื้นในอากาศสูง ดินที่เหมาะสมกับสับปะรดประเภท ดินร่วน ดินร่วนปนทราบ ดินปนลูกรัง ดินทรายชายทะเล ชอบพื้นที่ลาดเท เช่น ที่ลาดเชิงเขา  สภาพความเป็นกรดด่าง (pH)ของดินค่อนข้างเป็นกรดเล็กน้อย ตั้งแต่ 4.5-5.5 ฤดูกาลปลูกสับปะรด ช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตร ตั้งอต่ พฤศจิกายน- มกราคม และกลางเดือน เมษายน- กรกฎาคม สับปะรดจะให้ผลผลิตมาก ราคาถูกลง ช่วงเดือน กุมภาพันธ์ - ต้นเดือน เมษายน และเดือน สิงหาคม - ตุลาคมสับปะรดจะให้ผลผลิตน้อย แต่มีราคาแพง

 

พันธุ์สับปะรดที่นิยมปลูก  ในประเทศไทย นิยมปลูกสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย หรือเรียกว่า สับปะรดพันธุ์ศรีราชา พันธุ์อินทรีย์ชิต ซึ่งเป็นสับปะรดพันธุ์พื้นเมือง พันธุ์ขาว พันธุ์ภูเก็ต หรือเรียกว่า พันธุ์สวี  พันธุนางแล หรือพันธุ์น้ำผึ้ง พันธุตราดสีทอง และพันธุ์ภูแล

สรรพคุณทางสมุนไพร  ช่วยย่อยโปรตีนไม่ตกค้างในลำไส้  มีเกลือแร่ และวิตามีนซีจำวนมาก ช่วยบรรเทาอาการเป็นแผลหรือหนอง ช่วยขัยปัสสาวะ แก้กรระหายน้ำ แก้อากาบวมน้ำ ปัสสาวะไม่ออก บรรเทาอาการโรคบิด แก้ท้องผูก แก้ดรคนิ่ว แก้ส้นเท้าแตก
คำบรุพบท เช่น กับ แก่ แต่ ต่อ ด้วย โดย ตาม ข้าง ถึง จาก ของ จน ใน บน ใต้ สิ้น สำหรับ นอก เพื่อ ของ เกือบ ตั้งแต่ แห่ง ที่ เป็นต้น