สารอินทรีย์และบูวาเรียกำจัดเพลี้ยกระโดด
กำจัดเพลี๊ยะไฟไรแดงแมลงกระโดด,หนอนม้วนใบข้าวกัดกินพืชทำลายพืชเสียหายตัวห้ำตัวเบียนมีประโยชน์อย่างไร เชื้อราบูวาเรีย ดับเบิ๊ลอี ไรซ์โกลด์ แอ๊คติ้ง ปุ๋ยเอ็นฟังก์ชั่น เอสบีโคแม็ก
เราได้แล้วหลายเกษตรกร นาข้าวงามแข็งแรง ใบตั้งตรงไม่มีโรคพืชและแมลงใดๆ กวนเลย
การกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดในนาข้าว เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดในนาข้าวที่เป็นปัญหาหนักของเกษตรกรทำให้นาข้าวเสียหาย มากที่สุดขั้นต้องทิ้งผลผลิตที่มองเห็นอยู่ข้างหน้าโดยการไถทิ้งแล้วทำการเพาะปลูกใหม่ เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งวิธีการกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลที่ระบาดหนักสามารถป้องกันได้ก่อนที่เพลี้ยจะกินต้นข้าวตายหมดนา เป็นเหมือนเส้นผมบังภูเขาที่เกษตรกรลืมนึกถึงข้อนี้ไป เคล็ดลับวิธีการกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลง่าย ๆ ดังนี้
1.ในกรณีเมื่อมีสิ่งบอกเหตุว่าจะมีเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล จะมีพื้นที่นาข้าวบริเวณใกล้เคียงที่เกิดมีการระบาดควรหาวิธีการป้องกันไว้ก่อนโดยใช้สารอินทรีย์ที่มีคุณสมบัติป้องกันเพลี้ยกระโดดลงกินต้นข้าวและใช้สารอินทรีย์ ร่วมกับเชื้อราบูวาเรียกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเมื่อมีเพลี้ยกระโดดจำนวนไม่มากนัก
2. ในกรณีเมื่อมีเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเริ่มระบาด ต้องรีบดำเนินการกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลก่อนที่เพลี้ยกระโดดจะดูดกินน้ำเลี้ยงต้นข้าวจนหมด โดยใช้วิธีฆ่าตัวเต็มวัย คุมไข่แมลงเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลไม่ให้ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว และป้องกันการดูดน้ำเลี้ยงโดยง่ายจากตัวเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
3.ให้ปุ๋ยเพื่อฟื้นฟูต้นข้าวในทันทีหลังจากที่กำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลหยุดระบาดเพื่อต้นข้าวได้แตกยอดแตกกอใหม่ และสร้างผลผลิตได้ โดยปุ๋ยที่ให้กับต้นข้าวต้องเป็นปุ๋ยที่ต้นข้าวสามารถดูดซับไปใช้ได้ทันทีหลังจากที่ให้ปุ๋ย ปุ๋ยเคมีที่ให้ทางดินต้นข้าวจะฟื้นตัวได้ช้ากว่าการให้ปุ๋ยทางใบ ซึ่งจะไม่ทันกับการฟื้นต้วของตันข้าวหลังจากที่ได้รับเชื้อไวรัสจากตัวเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
วิธีการกำจัดเพลี้ยกระโดด
1.ใช้จุลินทรีย์ ที่ประกอบด้วยเชื้อราบูวาเรียและเมตตาไรเซียม ฉีดพ่นบริเวณที่มีตัวเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เชื้อราบูวาเรียจะมีคุณสมบัติฆ่าเพลี้ยตัวอ่อนและตัวเต็มวัย โดยเชื้อราบูวาเรียที่ถูกตัวของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลจะเจริญเติบโตในตัวของเพลี้ยและแตกเส้นใจเข้าไปในตัวของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลทำให้เพลี้ยเริ่มป่วยและหยุดการกินอาหารจนค่อย ๆ ตายไปในที่สุด
2.ใช้สารอินทรีย์คุมไข่ของเพลี้ยกระโดด โดยผสมพร้อมกับเชื้อราบูวาเรียฉีดพ่นบริเวณที่มีเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและไข่ของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล จะช่วยควบคุมไม่ให้ไข่ของเพลี้ยฟักเป็นตัว ทำให้เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลตัวอ่อนและตัวแก่ตาย ไข่ไม่ฟักเป็นตัว จะช่วยให้เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลหยุดระบาดได้เร็วขึ้น เป็นการร่นระยะเวลาในการกำจัดเพลี้ย ที่ป้องกันต้นข้าวได้รับความเสียหาย
3.ใช้สารอินทรีย์สังเคราะห์ป้องกันการดูดกินน้ำเลี้ยงของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ตัวที่ไม่โดน สารบูวาเรียฉีดพ่น หรือตัวป่วยที่ยังไม่ตาย สารอินทรีย์ ไรซ์โกลด์ จะทำให้เยื่อต้นข้าวแข็งแกร่งเพลี้ยไม่สามารถดูดกินน้ำเลี้ยงได้โดยง่าย จะทำให้เพลี้ยอดอาหารและไม่ออกไข่ สำหรับเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลตัวที่แข็งแรงเมื่อรู้สึกว่าต้นข้าวที่อาศัยอยู่ไม่ใช่อาหารที่ดีจะทำการย้ายถิ่นหนีไป
4. ใช้ปุ๋ยชนิดที่ต้นข้าวสามารถดูดซับนำไปใช้ได้ทันที เช่นปุ๋ยเอ็นฟังก์ชั่น เป็นปุ๋ยนาโนใช้ฉีดพ่นทางใบต้นข้าวสามารถดูดซับไปใช้เพื่อฟื้นฟูต้นข้าวได้ทันทีหลังจากการฉีดพ่น จะทำให้ต้นข้าวที่โดนเพลี้ยกระโดดดูดน้ำเลี้ยงส่วนที่ยังไม่ตายได้มีโอกาศแตกกอใหม่ และฟื้นตัวเร็ว
ในการกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลที่กำลังระบาดในนาข้าวหากใช้ทุกวิธีในเวลาเดียวกันจะทำให้ลดต้นทุนและเป็นการกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าวอย่างถูกวิธี ทำให้เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลหยุดระบาด ต้นข้าวฟื้นตัวและสร้างผลผลิตได้ตามปกติ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดไม่ต้องไถทิ้ง หรืออย่างน้อยยังมีผลผลิตที่เหลืออยู่บ้าง ดีกว่าวิธีการใช้ยาฆ่าแมลงฆ่าเพลี้ยอย่างเดียว ไม่ได้ผล และเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ หากต้องการฆ่าตัวเพลี้ยอย่างเดียว ควรใช้เชื้อราบิววาเรียฉีดพ่นทุก 7 วัน จนกว่าเพลี้ยจะหยุดระบาด นั่นหมายความว่าต้องเอาชนะปริมาณการฟักตัวของไข่แมลงเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในแต่ละวัน
ชุดกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล จำนวน 25 ไร่
1. จุลินทรีย์ที่ประกอบด้วย เชื้อราบูวาเรีย-เมตตาไรเซียม จำนวน 5 ซอง ราคา 600 บาท
2. ดับเบิ๊ลอีคุมไข่เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และเป็นสารจับใบ จำนวน 1 ขวด ขนาด 1000 ซีซี 450 บาท
3. ไรซ์โกลด์ ป้องกันเพลี้ยกระโดดดูดกินน้ำเลี้ยงต้นข้าวจำนวน 1 กระป้อง 500 กรัม 850 บาท
4. ปุ๋ยเอ็นฟังก์ชั่นสำหรับฟื้นฟูต้นข้าว ดูดซับเร็ว จำนวน 3 ชุด ๆ ละ 850 บาท 2550 บาท
วิธีใช้ชุดกำจัดเพลี้ยกระโดด อัตราผสมน้ำ 200 ลิตร พื้นที่ 5 ไร่/ ครั้ง
1. ใช้เชื้อราบูวาเรียสำเร็จรูป ประกอบด้วย บูวาเรีย-เมตตาไรเซียม จำนวน 1 ซอง (500 กรัม) ละลายน้ำในกระป๋องเล็ก่อนเพื่อให้บูวาเรียและผงละลายน้ำให้เรียบร้อยป้องกันผงแป้งลอยน้ำ และปัญหาอุดตันหัวฉีดพ่น แล้วเทบูวาเรียที่ละลายน้ำแล้วไปในถังน้ำ 200 ลิตร (ใช้เดี่ยวจะเป็นจุลินทรีย์ใช้ฆ่าแมลงแทนสารเคมี ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตคนและสัตว์ และสภาพแวดล้อม ดินและต้นพืช ใช้ฉีดพ่นทุก 7 วัน)
2. ใช้ดับเบิ๊ลอี สารอินทรีย์สกัดจากวิตามินพืชมีฤทธิ์คุมไข่หนอนแมลง แบ่งใช้ จำนวน 200 ซีซี/น้ำ 200 ลิตร เทใส่รวมไปในถังน้ำที่มีเชื้อราบูวาเรีย ใช้แทนสารจับใบ ใช้ฉีดพ่นพร้อมกันจะทำให้การลดปริมาณเพลี้ยระบาดได้รวดเร็ว จากการลดปริมาณการฟักตัวของไข่แมลงเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
3. ใช้ไรซ์โกลด์ สารอินทรีย์ป้องกันเพลี้ย ใช้ปริมาณ 100 กรัม(1 ซอง/น้ำ 200 ลิตร) คุณสมบัติปกติของไรซ์โกลด์จะใช้ป้องกันเชื้อรา แต่สามารถนำใช้กับเชื้อราบุวาเรียได้ คุณสมบัติพิเศษใช้เป็นตัวป้องกัน เพลี้ยกระโดดตัวที่ไม่โดนฉีดพ่นสารกำจัดแมลง ตัวที่หลงเหลืออยู่ไม่สามารถดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นข้าวได้ เนื่องจากไรซ์โกลด์จะช่วยทำให้ต้นข้าวแข็งแกร่ง
4.ใช้ปุ๋ยเอ็นฟังก์ชั่น 1 กล่อง/น้ำ 400 ลิตร พื้นที่ 10 ไร่ (ใช้เดี่ยวผสมน้ำ 200 ลิตร/5 ไร่ ช่วยในการฟื้นฟูต้นข้าวที่ถูกการทำลายจากเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ปุ๋ยเอ็นฟังก์ชั่นจะให้ธาตุอาหารที่สมบูรณ์ ซึ่งประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โปรตัสเซียม ธาตุอาหารรอง แม็คนีเซียม แคลเซียม และธาตุอาหารเสริมช่วยบำรุงต้นข้าว โบรอน เหล็ก มังกานีส สังกะสี ทองแดง ต้นข้าวสารมารถดูดซับไปใช้ได้อย่าวรวดเร็วหลังจากการฉีดพ่น ต่างกับการใช้ปุ๋ยเคมีที่ต้นข้าวจะได้รับไปใช้ได้ช้าซึ่งต้องซึมผ่านดินและดูดซึมทางราก ต้นข้าวจะฟื้นตัวได้ช้ากว่า
บทความเกี่ยวกับเพลี้ยกระโดด เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเป็นแมลงอยู่ในอันดับ Homoptera วงศ์ Delphacidad ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Nilaparvata lugens(Stal) วงจรชีวิตเป็นไข่ ตัวอ่อน และตัวเต็มวัย ตัวเต็มวัยมีลำตัวสีน้ำตาล มีรูปร่าง 2 แบบ คือ ชนิดปีกยาว และชนิดปีกสั้น ชนิดปีกยาวสามารถเคลื่อนย้ายและอพยพไปในระยะทางใกล้และไกล โดยอาศัยกระแสลมช่วยพัดพาไป ตัวเต็มวัยเพศเมียจะวางไข่เป็นกลุ่ม ส่วนใหญ่าจะวางไข่ที่บริเวณกาบใบของข้าว หรือเส้นกลางใบ โดยวางฟองไข่เป็นกลุ่มเรียงแถวตามแนวตั้งฉากกับกาบใบข้าว บริเวณที่วางไข่จะรอยช้ำเป็นสีน้ำตาล ไข่มีลักษณะรูปกระสวยโค้งค้ายกับกล้วยหอม มีสีขาวขุ่น มีระยะเวลาเป็นไข่ประมาณ 7 วัน หลังจากนั้นจะเป็นตัวอ่อน 16-17 วัน ตัวเต็มวัยเพศเมียชนิดปีกยาวมีขนาด 4-4.5 มิลลิเมตร วางไข่ประมาณ 100 ฟอง เพศผู้จะมีขนาดเล็กกว่า เพศมีมีชนิดปีกยาวและปีกสั้น เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลชนิดปีกสั้น จะวางไข่จำนวนมาก ประมาณ 300 ฟอง ตัวเต็มวัยมีชีวิตประมาณ 14 วัน ในหนึ่งฤดูการปลูกข้าว เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลสามารถเพิ่มปริมาณขยายพันธุ์ได้ 2-3 รุ่น
ลักษณะการทำลายต้นข้าว เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะทำลายต้นข้าวโดยการดูดกินน้ำเลี้ยงจากเซลส์ท่ออาหารบริเวณโคนต้นข้าวระดับเหนือผิวน้ำ ทำให้ต้นข้าวมีอาการใบเหลืองแห้งลักษณะค้ายถูกน้อร้อนลวก แห้งตายเป็นหย่อม ๆ เรียกว่า อาการไม้(hopperburn) ซึ่งโดยทั่วไปจะพบอาการไม้ในระยะข้าวกำลังแตกกอ ถึงระยะออรวง ซึ่งตรงกับช่วงอายุขัยที่ รุ่นที่ 2-3 ของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล นาข้าวที่ขาดน้ำตัวอ่อนจะลงมาอยู่ที่บริเวณโคนกอข้าว หรือบนพื้นดินที่แฉะมีความชื้น นอกจากนี้เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลจะยังเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสโรคใบหงิก (rie ragged stunt) มาสู่ต้นข้าว ทำให้ต้นข้าวมีอาการแคระแกร็น ต้นเตี้ย ใบสีเขียว แคบและสใบสั้น ใบแก่ช้ากว่าปกติ ปลายใบบิดเป็นเกลียว และขอบในแหว่งวิ่น หรือชาวบ้านเรียกว่า โรคจู๋
ปัจจัยที่มีผลในการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
วิธีการปลูกข้าวแบบนาหว่านน้ำตม จะมีการระบาดได้ง่ายมากกว่านาดำ เพราะนาหว่านมีจำนวนต้นข้าวหนาแน่ ทำให้อุณหภูมและความชื้นในแปลงนาเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ประกอบกับนาหว่านเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลสามารถทำลายข้าวได้อย่าต่อเนื่องกัน
การใช้ปุ๋ยกับนาข้าว การใช้ปุ๋ยเคมีอัตราสูง โดยเฉพาไนโตรเจน จะทำให้การเพิ่มจำนวนเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าวมีมากขึ้นเนื่องจากปุ๋ยไนโตรเจนทำให้ใบข้าวเขียวจัด หนาแน่ ต้นข้าวมีสภาพอวบน้ำเหมาะแก่การเข้าดูดกินของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เนื่องจากปุ๋ยไนโตรเจนทำให้ข้าวเขียวหนาแน่น ต้นข้าวมีสภาพอวบน้ำเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลชอบและเหมาะแก่การขขายพันธุ์ได้ดี
การควบคุมน้ำในนาข้าว จากสภาพของน้ำท่วมขังในนาตลอดเวลา จะทำให้เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลสามารถเพิ่มจำนวนได้ดีมากว่าสภาพที่มีการระบายน้ำในนาออกเป็นครั้งคราว เพราะมีความชื้นเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
การใช้ยาฆ่าแมลง วิธีการกำจัดโดยการใช้ยาฆ่าแมลงในระยะที่เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเป็นตัวเต็มวัยชนิดปกยาวหรือช่วงที่อพยพเข้าในนาข้าว (ข้าวอายุ 30 วัน) ศัตรูธรรมชาติจะถูกทำลายและสารฆ่าแมลงก็ไม่สามารถทำลายไข่ของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลได้ ทำให้ไข่ของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลฟักเป็นตัวอ่อนและมีโอกาสรอดสูง
วิธีการกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ในกรณีที่มีเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ให้ได้ผลและปลอดภัยจะต้องใช้วิธีกำจัดบ่อยครั้ง และใช้สารอินทรีย์คุมไข่เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล รวมถึงป้องกันการดูดกินน้ำเลี้ยงโดยใช้สารอินทรีย์ที่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเนื้อเยื่อของต้นข้าว ใช้กำจัดในเวลาเดียวกัน และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อป้องกันการระบาดรุกลามไปในพื้นที่นาแปลงอื่น ๆ
1. การฆ่าตัวอ่อนและตัวเต็มวัย เพื่อความปลอดภัยและฉีดพ่นได้บ่อยครั้ง ใช้เชื้อราบูวาเรียผสมน้ำฉีดพ่น
2.การควบคุมการฟักตัวของไข่เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลใช้สารอินทรีย์ดับเบิ๊ลอีผสมน้ำฉีดพ่นบริเวณที่มีไข่เพลี้ย
3. การเสริมให้ต้นข้าวแข็งแกร่งด้วยสารอินทรีย์ ไรซ์โกลด์ผสมน้ำฉีดพ่น
คำหลัก/ คีย์เวิร์ด : ข้าว,พันธุ์ข้าวไทย,ข้าวไทย,ชนิดพันธุ์ข้าว,วิธีการปลูกข้าว,การทำนาข้าว,นาข้าว,ปุ๋ยดีกับนาข้าว,ปุ๋ยดีกับข้าว,ปุ๋ยกับนาข้าว,การใช้ปุ๋ยกับนาข้าว,วิธีใช้ปุ๋ยกับนาข้าว,การใช้ปุ๋ยเอ็นฟังก์ชั่น,วิธีการใช้ปุ๋ยกับนาข้าว,วิธีการใช้ปุ๋ยเอ็นฟังก์ชั่นกับนาข้าว,การใช้ปุ๋ยยูเรีย,วิธีการใช้ปุ๋ยยูเรีย,การใช้ปุ๋ยยูเรียกับนาข้าว,ปัญหาของข้าว,โรคที่เกิดกับต้นข้าว,การกำจัดแมลงในนาข้าว,กำจัดเพลี้ยกระโดดในนาข้าว,การกำจัดเพลี้ย,บูวาเรียกำจัดเพลี้ย,ร้านขายบูวาเรีย,ปุ๋ยข้าว,ร้านขายปุ๋ยเอ็นฟังก์ชั่น, ร้านขายปุ๋ยกับนาข้าว,ต้องการขายปุ๋ย,ต้องการเปิดร้านขายปุ๋ย, สารอินทรีย์กำจัดแมลง,วิธีการใช้สารอินทรีย์กำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล,แนะนำการปลูกข้าว
ตัวแทนจำหน่ายคนขายแค็ปซูลนาโนเขียวดี,แตกกอออกช่อดก,ปุ๋ยนาโนใส่ได้กับพืชทุกๆชนิด,ได้ผลผลิตดีเกินคาด,ตัวแทนจำหน่ายนาโนจังหวัดอยุธยา,ตัวแทนขายนาโชจังหวัดในชลบุรีศรีราชา
คำบรุพบท เช่น กับ แก่ แต่ ต่อ ด้วย โดย ตาม ข้าง ถึง จาก ของ จน ใน บน ใต้ สิ้น สำหรับ นอก เพื่อ ของ เกือบ ตั้งแต่ แห่ง ที่ เป็นต้น